เครื่องหมาย CE Mark
รู้จัก CE Marking: มาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมของ EU Print E-mail
Written by สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงบรัสเซลส์ Wednesday, 23 January 2008
CE Marking หรือการประทับตรา (ตัวอักษรย่อมาจากคำในภาษาฝรั่งเศสว่า "Conformité Européene" ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษคือ "European Conformity") เป็นเครื่องหมายแสดงว่าสินค้านั้นมีการออกแบบและการผลิตที่ได้มาตรฐานความ ปลอดภัยตามข้อกำหนดในระเบียบข้อบังคับด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม EU เพื่อให้ผู้บริโภคใน EU มีความมั่นใจถึงความปลอดภัยในการใช้สินค้าและการจัดการตามมาตรการพิทักษ์ รักษาและลดผลกระทบที่อาจมีต่อสิ่งแวดล้อม
ข้อมูลและขั้นตอนในเรื่องมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมยุโรปภายใต้ระบบ New Approach Standardisation เพื่อปรับประสานมาตรฐานสินค้าของประเทศสมาชิก EU ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและเอื้ออำนวยต่อการไหลเวียนของสินค้าอย่างเสรีใน ตลาดภายใน สามารถดูทางเว็ปไซท์ http://www.newapproach.org/ ซึ่งจัดทำขึ้นร่วมกันโดยหน่วยงานด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของ EU ทั้ง 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย
- CEN - European Committee for Standardization
- CENELEC - European Committee for Electrotechnical Standardization
- ETSI - European Telecommunications Standards Institute
ขั้นตอนขออนุญาตติดตรา CE Marking สามารถดูทางเว็ปไซท์ http://www.ce-marking.org/what-is-ce-marking.html โดยมีขั้นตอนสำคัญคือ
- ตรวจสอบว่า มีระเบียบข้อบังคับใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของเรา
- ตรวจสอบว่าสินค้าของเรามีความความสอดคล้องกับข้อกำหนดสำคัญๆ ด้านการออกแบบและการผลิต ตามข้อกำหนดในระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเพียงใด
- เลือกขั้นตอน conformity assessment จากทางเลือกต่างๆ (options or modules) :
Module A: internal production control
Module Aa: intervention of a Notified Body
Module B: EC type-examination
Module C: conformity to type
Module D: production quality assurance
Module E: product quality assurance
Module F: product verification
Module G: unit verification
Module H: full quality assurance
ทั้งนี้ ระเบียบข้อบังคับมักใช้ชุดคำถามที่สอบถามเกี่ยวกับคุณลักษณะสินค้า เพื่อจัดประเภทของระดับความเสี่ยง โดยอ้างอิงทางเลือกที่ยอมให้ผู้ผลิตรับรองสินค้าของตนและติดตรา CE marking ได้
- สำหรับสินค้าที่มีความเสี่ยงน้อย ทางโรงงานผู้ผลิตสามารถตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยของสินค้าตนเองได้ โดยจัดทำใบรับรอง (Declaration of Conformity) และติดตรา บนสินค้าตน แต่ในกรณีสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง ระเบียบข้อบังคับจะกำหนดให้มีการตรวจสอบรับรองโดยหน่วยงานอิสระ (Notified Body) ทั้งจากภาครัฐและเอกชนของประเทศสมาชิก EU ประเทศสมาชิก EFTA และประเทศที่มีความตกลง MRA กับ EU ได้แก่ สหรัฐฯ และออสเตรเลีย ซึ่งคณะกรรมาธิการยุโรปได้ให้การรับรองและประกาศใน Official Journal แล้ว (ข้อมูลในเว็ปไซท์ http://www.ce-marking.org/list-of-notified-bodies.html มีหน่วยงาน Notified Body ราว 1,000 แห่ง) หน่วยงานเหล่านี้จะทำการตรวจสอบสินค้าในห้องปฏิบัติการตามขั้นตอนที่กำหนดใน ข้อบังคับ และมักให้บริการ เช่น
- การทดสอบผลิตภัณฑ์
- การออกใบรับรองผลการตรวจสอบ
- การประเมินแฟ้มข้อมูลด้านเทคนิค และข้อมูลการออกแบบสินค้า
- ระบบคุณภาพและการเฝ้าระวังสินค้า
- การกำหนดมาตรฐาน
- หากสินค้าของเราอยู่ในข่ายที่จะต้องตรวจสอบรับรองโดย Notified Body ก็จะมีขั้นตอนที่ต้องเลือกแบบมาตรฐานสินค้า วิธีการทดสอบ และ Notified Body หลังจากนั้น ต้องจัดตั้งตัวแทน Authorized Representative ใน EU และจัดทำแฟ้มข้อมูลด้านเทคนิคสำหรับตรวจพิสูจน์ว่าสินค้าของเราผ่านการทดสอบ อย่างถูกต้องและสอดคล้องกับข้อกำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
- การจัดทำใบรับรอง Declaration of Conformity ต้องบรรจุข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการตรวจย้อนกลับไปยังโรงงานผู้ผลิต หรือ Authorized Representative ใน EU โดยระบุรายชื่อข้อบังคับและมาตรฐานต่างๆ ที่สินค้าของเรามีความสอดคล้อง คุณลักษณะสินค้า ชื่อโรงงานผู้ผลิต ที่อยู่ และลายเซ็นต์ผู้มีอำนาจ
- สินค้าบางกลุ่ม เช่น อุปกรณ์การแพทย์ จะต้องมีการจดทะเบียนใน EU ด้วย ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ จะมีใบทะเบียน (Certificate of Registration) กำกับ มิฉะนั้น จะไม่สามารถวางจำหน่ายในตลาดยุโรปและติดตรา CE marking ได้
- นอกจากนั้น ยังมีระเบียบเฉพาะเกี่ยวกับขนาดและตำแหน่งในการติดตรา CE marking บนตัวสินค้า หีบห่อบรรจุภัณฑ์ และเอกสารในการขนส่งสินค้า รวมทั้งข้อจำกัดเฉพาะในประเด็นเมื่อไรและใครได้รับอนุญาตให้ติดตรา CE marking