RoHS มาตรฐาน
ISO/TS 16949 ระบบการบริหารจัดการคุณภาพ สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์
กลับหน้าระบบบริหาร
ใครที่คลุกคลีกับฝรั่ง 2 ทวีปคือ อเมริกา และยุโรปจะมีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่าคนในสองทวีปนี้บางทีจะไม่ค่อยยอมรับกัน เท่าไร เช่นอะไรที่ยุโรปทำ อเมริกามักออกมาพูดจาเสียดสีบ่อยครั้งทำนองว่าไม่ค่อยได้เรื่องอะไรทำนอง นั้น ส่วนยุโรปก็บอกว่าอเมริกานั้น over เกินไป อย่างมาตรฐาน ISO 9000 แม้จะแพร่หลายในยุโรป และเอเชีย แต่ในอเมริกาจะไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าที่ควร เพราะถ้าพูดถึงระบบงานอเมริกาจะไปทาง TQM, Balanced Scorecard และ Six Sigma เสียมากกว่า ถ้าจะมีบางเรื่องที่อาจพึ่งพาอาศัยกันบ้างก็มีไม่มากนัก
พูดถึงมาตรฐานในอุตสาหกรรมยานยนต์มีบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้คือเย นเนอรัลมอเตอร์ ฟอร์ด และ เดมเลอร์ ไครสเรอร์ ที่คนอเมริกัน เรียกกันติดปากว่า Big Three หรือ สามยักษ์ใหญ่ก็มาจับมือกันว่าจะมากำหนดมาตรฐานกลางๆอะไรดี เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีมาตรฐานของตัวเองทำให้ Suppliers ทั้งหลายเกิดความปวดหัวเพราะมันเข้ากันไม่ได้ ตอนนั้นมาตรฐาน ISO 9000 ก็ออกมาแล้วแต่ทั้ง 3 ยักษ์บอกยังไม่น่าจะ work เพราะมันเป็นiso16949กลางๆเกินไปและไม่มีอะไรที่มันเฉพาะที่เป็นของยานยนต์เอาเลย ก็เลยกำหนดมาตรฐาน QS 9000 ออกมาเป็นข้อกำหนดเฉพาะใช้ควบกันไปกับ ISO 9000 ในปี 1994
แต่ต่อมาในปี 2002 ก็ได้ออกมาตรฐานเฉพาะตัวของอุตสาหกรรมนี้ออกมาภายใต้ชื่อว่า ISO 16949 – ระบบการบริหารจัดการคุณภาพข้อกำหนดเฉพาะสำหรับการนำมาตรฐาน ISO 9000:2000 ไปใช้กับองค์กรที่ผลิตรถยนต์ และชิ้นส่วนรถยนต์ ( Quality Management System Particular requirements for the application of ISO 9000:2000 for automotive production and relevant service part organizations )
สิ่งที่องค์กรที่เป็นผู้ส่งมอบ หรือ suppliers ของอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วๆไปจะต้องทำตามมาตรฐานนี้มีคร่าวๆดังนี้
- จัดทำคู่มือคุณภาพ
- ควบคุมเอกสาร
- ควบคุมบันทึก
- ฝ่ายบริหารต้องแสดงความมุ่งมั่น
- ให้ความสำคัญกับลูกค้า
- กำหนดนโยบายคุณภาพ
- กำหนดวัตถุประสงค์ด้านคุณภาพ
- วางแผนระบบการบริหารคุณภาพ
- กำหนดความรับผิดชอบ อำนาจหน้าที่ และการติดต่อสื่อสาร
- แต่งตั้งผู้แทนฝ่ายบริหาร
- ทำการติดต่อสื่อสารภายใน
- ประชุมทบทวนของฝ่ายบริหาร
- จัดให้มีทรัพยากร
- สร้างสมรรถนะ จิตสำนึก และฝึกอบรมบุคลากร
- สร้างทักษะในการออกแบบผลิตภัณฑ์
- จูงใจพนักงานและการมอบอำนาจ
- จัดให้มีสาธารณูปโภคพื้นฐาน (อาจใช้ว่า โครงสร้างพื้นฐาน ก็ได้)
- จัดให้มีสภาพแวดล้อมในการทำงานทีดี
- วางแผนการผลิต
- กำหนด และบริหารกระบวนการที่สัมพันธ์กับลูกค้า
- วางแผนการออกแบบ และการพัฒนา
- จัดทำข้อมูลป้อนเข้าของการออกแบบและการพัฒนา
- จัดทำผลที่ได้จากการออกแบบและการพัฒนา
- ทบทวนการออกแบบและการพัฒนา
- ทวนสอบการออกแบบและการพัฒนา
- ยืนยันความต้องถูกต้องของการออกแบบและการพัฒนา
- ควบคุมการเปลี่ยนแปลงการออกแบบและการพัฒนา
- บริหารกระบวนการจัดซื้อ
- ควบคุมการผลิตและการบริการ
- การยืนยันความถูกต้องของกระบวนการผลิตและการบริการ
- จัดให้มีการชี้บ่งและสอบกลับได้
- บริหารทรัพย์สินของลูกค้า
- คงรักษาสภาพของผลิตภัณฑ์
- ควบคุมอุปกรณ์ที่ใช้ในการเฝ้าระวังและตรวจวัด
- ชี้บ่งเครื่องมือทางสถิติ
- เฝ้าติดตามและวัดความพึงพอใจของลูกค้า
- ตรวจติดตามภายใน
- เฝ้าติดตามและตรวจวัดกระบวนการ
- เฝ้าติดตามและตรวจวัดผลิตภัณฑ์
- ควบคุมผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดiso 16949_2
- วิเคราะห์ข้อมูล
- ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
- ปฏิบัติการแก้ไข
- ปฏิบัติการป้องกัน
เมื่อคุณศึกษามาตรฐานนี้จะเห็นได้ว่ามีรายละเอียดทางสถิติ และวิศวกกรมอยู่มากมาย จัดเป็นมาตรฐานที่ค่อนข้างยากเล่มหนึ่ง
มาตรฐานนี้มีเครื่องมือสำคัญที่คุณจำเป็นต้องรู้และเอาไปใช้ได้ เขาเรียกว่า Core Tools ที่ประกอบด้วย
APQP - Advanced Product Quality Planning
FMEA - Failure Mode and Effects Analysis
MSA - Measurement System Analysis
PPAP - Production Part Approval Process
SPC - Statistical Process Control
แต่ละเรื่องก้ไม่เบาครับ ผมจะไปเขียนเอาอีก page หนึ่งต่างหาก